“เพราะลางร้ายนั้น ได้คืบใกล้เข้ามาแล้ว”
Type : Short-fiction
Pairing
: Oh Sehun x Lu Han
** Warning!! อิงเรียลแต่ไม่เรียลจริงนะจย้ะ**
ความจริงที่ซ่อนอยู่ในรอยน้ำตา
ภายใต้ผ้าพันแผลสีขาวที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด
คือเบื้องหลังอันแสนเจ็บปวดของความรัก ที่ไม่ได้รับรักตอบของโอเซฮุน
เสียงสวบสาบเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายที่ขยับกายในความมืดพยายามจัดผ้าห่มที่เตียงตัวเองให้เหมือนว่าตนยังขดตัวอยู่ที่เดิม
ทั้งที่กำลังจะ แอบ ออกไปข้างนอกยามวิกาล ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนยี่สิบนาที
ตาคมก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้วคิดกับตัวเอง นอนกันหมดยังวะ
. .
โอเซฮุน มักเน่ของวงบอยแบนด์ชื่อดังกำลังพยายามย่องให้เบาที่สุดผ่านโถงทางเดินเพื่อไปให้ถึงตู้เก็บของหน้าประตู
ที่เขาวางแผนเอารองเท้าผ้าใบคู่โปรดมาเตรียมรอไว้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแล้วออกไปเริงร่ายามราตรี..
ซึ่งในที่นี้เด็กหนุ่มวัยยี่สิบปีพูดได้เต็มปากว่ามันก็แค่การไปเกมเซนเตอร์ที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง
โอเซฮุนติดเกมออนไลน์ยิ่งกว่าอะไรทั้งมวลนะรู้ยัง ?
ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแอบพี่ๆ
ออกไปเที่ยวหาแสงสีเพื่อเก็บเลเวลมอนสเตอร์ในเกม แต่เพราะครั้งนี้เป็นคืนที่เขากระสับกระส่ายนัก
. . ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร บางทีอาจจะเป็นตามคำโบราณเขาเรียกว่า ลาง
ก็ได้กระมัง
ร่างสูงแต่งกายสบายๆ
ด้วยเสื้อยืดคอกลมสีเข้มกับกางเกงสามส่วนออกไปยืนลับๆ ล่อๆ โบกแท็กซี่
คิดว่าคนขับไม่มากก็น้อยต้องคิดว่าเขาเป็นพวกคุณหนูทะเลาะกับหม่อมพ่อหม่อมแม่แล้วหนีออกจากบ้าน
เมื่อรถจอดเทียบหน้าลานกว้างที่ประดับไฟหลากสี เซฮุนยื่นธนบัตรออกมาจ่ายเงินก่อนจะเปิดประตูลงไปยืนนิ่งๆ
มองแหล่งรวมความสุขที่หาได้น้อยนักในชีวิตสองสามปีมานี้แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตามนิสัย
“ลูกพ่อสบายดีไหม . .
พ่อมาหาแล้ว J ”
เพราะไม่ใช่คนละเอียด
เซฮุนที่กำลังแลกชั่วโมงเน็ตอย่างตื่นเต้นเลยไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำสำรวจประชากรผิดพลาดไปยกใหญ่
. . ก็พี่ระเบียบและพี่วินัยประจำหอจอมหวงน้องสองคนยังไม่ได้กลับมาเพราะต้องอัดรายการวิทยุ
ราวๆ สิบนาทีที่เซฮุนออกไป คิมจุนมยอนก็ก้าวนำเข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนจะเปิดไฟที่โคมข้างโซฟาให้พอมีแสงสว่างเล็กน้อยไม่ไปรบกวนคนที่นอนหลับไปแล้ว
ก่อนคยองซูจะหอบถุงเสบียงยามดึกหลังจากเสร็จงานตามเข้ามาแล้วปิดประตูลง
“หัวเราะมากไปหน่อย
รู้สึกเจ็บคอจัง”
หัวหน้าวงฝั่งเกาหลีเอ่ยกับผู้เป็นน้องแล้วกระแอมออกมาเล็กน้อย
คยองซูหัวเราะเบาๆ บอกว่าจะทำน้ำผึ้งมะนาวให้แล้วไล่อีกคนไปอาบน้ำ วันนี้มีไก่อบซอสสองตัวใหญ่ๆ
. . หวังว่าจงอินจะไม่ทำจมูกฟุดฟิดแล้วตื่นมาแย่งเขากินหรอกนะ
หลังจากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำที่ถึงจะเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นชำระร่างกายให้หายเมื่อล้าแต่เมื่อผิวเนื้อสัมผัสกับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแล้วจุนมยอนก็ไม่อาจทนทานได้
เขารีบแต่งตัวและเช็ดผมลวกๆ
รู้สึกหิวจนตาลายเพราะงานยุ่งตั้งแต่ช่วงสายจนดึกดื่น
นี่เป็นอาหารมื้อแรกของเขาเลยนะ กินแต่น้ำผลไม้มาทั้งวัน . .
แต่แทนที่จะรีบกระโดดออกไปหาจานไก่อบที่เขาทุ่มซื้อมาสองตัว
ในวันนี้ไม่รู้คิดยังไงถึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วชะโงกดูน้องชายคนเล็กที่น่าจะนอนอยู่ตรงนั้น
แต่บนเตียงกลับมีแค่กองผ้าห่มที่คลุมทับหมอนข้างเท่านั้น
“ดึกขนาดนี้ . . เซฮุนหายไปไหน”
ชายหนุ่มผิวขาวในชุดนอนแขนยาวเรียบร้อยเอ่ยคำถามที่ถามตัวเองมาหลายรอบก่อนจะเดินมาถึงห้องนั่งเล่นกับคนเป็นน้องที่ยกของว่างง่ายๆออกมาจากห้องครัว
. . . คยองซูวางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วส่ายหัวไปมา
แต่ก็คาดเดาคำตอบที่น่าจะใกล้เคียงกับสถานที่ซึ่งน้องชายจะไปออกมาให้อีกฝ่ายหายกังวล
“หิวแล้วแวะไปมินิมาร์ทรึเปล่าครับ”
“อา . . พี่ก็หวังให้เป็นอย่างนั้น” จุนมยอนขมวดคิ้วมุ่นพร้อมถอนหายใจยาวๆ
ฮ.. ฮัดชิ้วว..
ด้านคนที่ถูกนินทาอยู่กรายๆ จามออกมาเสียงดังแล้วเอามือถูจมูก
เซฮุนเล่นชนะตาแพ้ตาสลับไปมากว่าสิบรอบกว่าเลเวลจะถึงจุดที่ไปซื้อไอเทมมาเสริมพลังได้เพิ่ม
เขาทำงานหาเงินใช้เองได้ตั้งแต่อายุยังน้อยหากจะเทียบกับเพื่อนรุ่นด้วยกัน
เพราะฉะนั้นเวลาพักผ่อนส่วนตัวที่เสาะแสวงหาเสมอเวลาไม่มีตารางงาน
ที่อัดแน่นไปด้วยการฝึกซ้อมและขึ้นแสดงแล้ว โรคติดหน้าจอ
ที่วัยรุ่นเจนวายเป็นกันทั้งแผ่นดินเห็นทีจะมีอิทธิพลกับเขามากพอดู . .
พอหลุดจากเกมและโปรแกรมแชทที่ไม่รู้จะพิมพ์คุยกับใครในสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดแล้ว
ที่พึ่งทางใจของร่างสูงก็เห็นจะเป็นเกมออนไลน์สไตล์แมนๆ ไล่ฆ่าไล่เผากันสนุกสนานแบบที่ผู้ปกครองร้อยละร้อยกระมังไม่แนะนำให้เล่นเพราะจะไปส่งเสริมนิสัยก้าวร้าว
นั่นแหล่ะที่เขาติดหนึบหนับพอๆ กับบับเบิ้ลที
ชนิดไม่ได้แตะสักนิด แล้วแทบขาดใจ
และถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เซฮุนก็ไม่เคยจมกับกองทัพมอนสเตอร์เลยเถิดจนเสียการเรียนหรือมีอารมณ์รุนแรงเที่ยวเอามีดไปไล่แทงคนที่เหม็นขี้หน้าทำนองนั้น
ทำให้ทางบ้านอนุญาตให้เล่นได้ยาวๆ
มันฝรั่งทอดกรอบพูนจานถูกส่งเข้าปากเป็นชิ้นสุดท้ายอย่างสบายใจด้วยที่ไม่มีใครมาตามคุมระหว่างจะทานอะไรจุบจิบกลางดึก
เซฮุนคิดเสมอว่าเขาเป็นเด็กกำลังโต เลยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทานอาหารให้ครบและทานให้เยอะเข้าไว้
เขาไม่ได้เรียนสายวิทย์ - คณิตมาสักหน่อยถึงจะได้รู้ว่าหากบริโภคมากเกินไปจะเป็นการเสพติดแถมยังแต่ผลร้าย
แต่ช่างประไร . . เดี๋ยวค่อยคิดวิธีแก้ทีหลังก็แล้วกัน และเพราะหลักการคิดแบบนั้นนั่นเอง ที่ทำให้ ค่อยคิดวิธีแก้ทีหลัง จากการทำอะไรไปโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดี
มีแต่ผลร้ายชนิดขาดดุลแบบสุดโต่ง
เข็มนาฬิกาผ่านเลยไปจนล่วงเข้าวันใหม่
เด็กหนุ่มเริ่มสะบัดหัวไปมาไล่อาการง่วง
ที่ทำให้เขาตาพร่าเห็นไอดีอดีตเพื่อนร่วมห้องที่กลายเป็นศัตรูกันไปแล้วเพราะมีปากเสียงกันตอนลงแข่งตีป้อมเมื่อปีก่อนทักแชทมา
เซฮุนทำเป็นไม่มองไม่เห็นแล้วเล่นเกมต่อไป จนแรงผลักเบาๆ
ที่หัวไหล่พร้อมประโยคกระบิดกระบวนนั่นเองที่ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวก็อยู่แถวๆ นี้
ราวกับเฝ้ารอวันที่จะลากให้เขามาติดกับกระไรเลย . . .
“เห้ย . .ว่าไงมักเน่สุดหล่อ” เซฮุนเกลียดเจ้าของเสียงเสียดประสาทตรงหน้านัก นี่ไม่ได้แกล้งพูด
เด็กหนุ่มที่กำลังผ่อนคลายปัญหามากมายที่เข้ามาในชีวิตทำเป็นมองภาพในจอนิ่งแล้วตั้งหน้าตั้งตาบังคับตัวละครไปทลายด่านในเกมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่คนมันอยากจะหาเรื่องตั้งแต่ทีแรก ยังไงก็ไม่หยุดแค่อีกฝ่ายไม่สนใจแน่ๆ
“อะไรกัน โอเซฮุนดังแล้วหยิ่งหรอวะ
ฉันมีข่าวแจ่มๆ มาบอกนะเว้ย”
อ้อล้อชวนขันแต่ฝ่ายที่ยังนิ่งงันไม่ตลกด้วย เด็กหนุ่มพยายามชี้ชวนอดีตเพื่อนรักด้วยข้อเสนอล่อใจอย่างประนีประนอมที่สุด
ใช่ว่าตัวเขาเองอยากพูดประเด็นหลักออกไปตรงๆ เสียเมื่อไหร่
แต่เมื่อคนที่ตั้งแต่เด็กก็เห็นว่าแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าไม่มากเท่ามนุษย์ปกติเขาทำกันยังตีมึนไม่สนใจ
ก็เลยต้องจำใจพูดเนื้อข่าวที่เตรียมมาอย่างดีพร้อมหลักฐานประโคมเข้าไปตรงๆ
“พี่คนสวยของมึงอ่ะ ฟันสาวไปครึ่งเมืองแล้วนี่หว่า
ล่าแต้มเก่งน่าดู”
มือเรียวที่พรมลงบนแป้นพิมพ์สีสะอาดชะงักไปเล็กน้อยแต่ยังฝืนตัวเองบังคับสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในเกมอย่างสำรวม
เขาไม่อยากมีเรื่องกับใครตอนกำลังอารมณ์ดีแบบนี้ . . ยิ่งเรื่องที่ดึงความสุขเล็กๆ ที่เขาสมควรได้รับมาจากคนคนนั้นแล้วด้วย
ยิ่งไม่อยากเปลืองเวลามานั่งคิดว่าจะแก้หน้าให้อย่างไร ในเมื่อทั้งหมดที่หลุดเป็นข่าวอะไรออกมาทั้งหมดก็ทำตัวเองทั้งนั้น
คิดว่าในหัวเซฮุนตอนนี้ต้องมีภาพแบบในการ์ตูน
ที่ปีศาจและนางฟ้าผลัดกันกระซิบยุยงว่าควรจะจัดการกับความอึดอัดคับข้องใจในตอนนี้อย่างไร
. . แน่ล่ะ
เซฮุนอยากลุกขึ้นถีบเข้ากลางตัวเพื่อนตะไลนี่แล้วชูนิ้วกลางใส่นัก
แต่ในขณะเดียวกันอย่างที่หมอนั่นส่งเสียงรังแกมาตั้งแต่ต้นว่าดังแล้วหยิ่งอะไรก็ตาม
ติดที่ว่าตอนนี้เขาไม่ใช่โอเซฮุน
แต่เป็นมักเน่เซฮุนของเอ็กโซ เป็นคนของประชาชนแล้วก็ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างสิ ในวินาทีที่กำลังจะปลงได้อยู่แล้วนั้น...
เสียงบาดหูในความคิดเด็กหนุ่มก็ดังขึ้นกระพือความเจ็บแค้นในหัวใจขึ้นมาอีก
“แถมลากแต่พวกเซี๊ยะๆ ไปฟัดด้วยนะ
อื้อหือ . . กระเป๋าท่าจะหนักว่ะ”
ด้วยความอดทนที่มาถึงขีดจำกัดในระดับหนึ่ง . . เซฮุนเหยียดมุมปากแล้วหมุนเก้าอี้ไปประจันหน้ากับคนที่รบกวนสมาธิเขามาตลอดช่วงเวลาการพยายามจะแซะให้เข้าเนื้อ
“เห่าอะไรบ๊งเบ๊งอยู่ได้ ปากเปาะเรอะ”
“แหม่ อย่าหน่อมแน้มไปหน่อยเลยน่า มึงก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดีนะว่าทางนู้นเป็นคนยังไง
เห็นแบบนั้นเขาไม่รอให้มึงมาเอาหรือมาเอามึงหรอก ดูคลิปป่ะ กูมีนะ” ฝ่ายที่เสนออะไรเกินขอบเขตของศีลธรรมทำทีตีสนิทด้วยการเข้ามาโอบบ่ากว้างนั้นแล้วเลื่อนสมาร์ทโฟนค่ายดังเข้าไปใกล้ตาคนที่ปัดมันออกแล้วเอ่ยสั้นๆ
แสบๆ ตามนิสัย
“กูก็มีตะกร้อครอบปากนะ เอามั้ย ขายถูกๆ”
“เชี่ย กูไม่ใช่หมา”
“งั้นก็หยุดพูดถึงเสี่ยวลู่แบบนั้นซักที
อยากตาย?”
“อูยย กลัวจังเล้ย
คนนี้อ่ะแตะไม่ได้ เคยเห็นพี่คนสวยเวอร์ชั่นนู๊ดชัดๆ ยังวะ หน้าก็อ้อย ขานี่แบบขาว..
เนียน... เหี้ยแซ่บอ่ะ น่าเอาชิบหาย”
“ห่าเอ๊ย”
ไม่รอให้ได้พูดอะไรอีก ร่างสูงสบถแล้วกระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมก่อนจะประเคนหมัดหลุ่นๆ
กระแทกมุมปากคนที่พูดไม่เข้าท่าอยู่นานสองนานท่ามกลางความตกใจของผู้คนโดยรอบที่ถึงกับวงแตกแยกตัวออกจากเก้าอี้ตัวนุ่มกะทันหัน
เพราะมือหนาตามไปดึงตัวอีกคนขึ้นมาจากพื้นด้วยการบีบเข้าที่ลำคอแล้วเหวี่ยงไปกระแทกกำแพงเสียงดัง
เวลาขาดสติคนเรามักทำอะไรออกไปโดยที่ไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาในภายหลัง
. . เซฮุนที่หน้ามืดไปหมดตอนนี้ก็เหมือนกัน เขาใส่หมอนั่นไปอีกหลายยกก่อนจะถูกถีบจนหงายหลังลงมาที่พื้นพรม
เด็กหนุ่มสองคนผลัดกันขึ้นคร่อมอีกฝ่ายแล้วรัวหมัดใส่กันชุลมุนโดยไม่มีคนกล้าเข้ามาห้าม
นับว่าตัวป่วนจอมเกเรยังมีสำนึกดีอยู่บ้างที่ไม่ต่อยแสกหน้าเพื่อนที่เป็นถึงไอดอลชื่อดัง
และดูเหมือนช่วงแขนของฝ่ายที่มีน้ำโหถึงขีดสุดยาวกว่า คนมาหาเรื่องจึงเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
เด็กหนุ่มปากร้ายเลยได้แต่หมุนตัวหลบแล้วตะโกนใส่ร่างทรงวิญญาณหมาบ้า
“เซฮุนยอมรับความจริงเหอะว่ะ!! แมนๆ ดิมึง เสียงหวานไม่ใช่จะครางให้มึงเอานะ!!!!”
วาจาส่อเสียดไม่ลดละ
สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้พูด
ทว่าแรงที่ลดน้อยถอยลงไปมากเพราะโดนจัดการบริเวณช่วงท้องทำให้กำปั้นของฝ่ามือขาวเฉียดคางเขาไปชนกับราวเหล็กแทน
เซฮุนนิ่วหน้ากับความเจ็บปวดที่ได้รับ แต่ความรู้สึกที่จุกรวมกันในอกกลับผลักดันให้การกระทำให้หายแค้นที่เอาเรื่องอะไรไม่รู้มากรอกหูเขายังคงดำเนินไปต่อ
“หุบปาก!!! กูไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้น”
“เชื่อก็ควาย ! แล้วที่ต่อยเอาๆ นี่อะไรวะ!!!” พูดไปก็หนีอีกคนหนึ่งไปตลอดทางที่วิ่งวนเป็นวงกลม
หน้าตาทั้งสองคนคงเละเทะพอสมควร และองค์ประกอบรอบตัวก็พังไม่เป็นท่าแน่แล้ว
“พูดจาหมาไม่แดกเอง ! บอกให้หยุด มึงไม่หยุด”
“มึงจะปกป้องคนเหี้ยๆ
แบบนั้นไปทำไมถ้ามึงไม่ชอบเขา”
ดูเหมือนจะเดือดจริง . . ข่าวที่ได้รับมาประกอบกับสายตาคู่นั้น
เด็กหนุ่มคิดว่าเขามองไม่ผิด ความอาทรของเซฮุนที่มีต่อพี่คนสวยของมันมีมากจนเขาจะต้านพิษรักแรงหึงหรือสุดจะเปรียบความรู้สึกที่หยั่งไม่ได้แล้วเลยคว้าเก้าอี้เหล็กขึ้นกันทั้งหมัดทั้งเท้าอีกคน
“เขาเป็นพี่กู!! เหี้ยก็พี่กู มึงคนนอกมึงไม่เข้าใจหรอก!!! ”
จงใจถีบแรงๆ
ให้เหล็กเนื้อเย็นซึ่งทำให้แขนซ้ายเขาชาไปหมดกระแทกหัวที่มีแต่เรื่องสกปรกคอยคิดแต่จะรังควานชาวบ้านเขาไปทุกเรื่องให้มันมีสติขึ้นบ้างโดยไม่ได้หันมองตัวเองสักนิด
. . เห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบปากจัดๆ นั่นไปก็ได้ที
โอเซฮุนจะหมดลุคไอดอลมันก็วันนี้
นี่เขาคิดว่ามันเป็นคำพูดที่แรงที่สุดในรอบห้าปีที่ออกจากปากเขาเลยก็เป็นได้
“อิจฉาเขาแล้วเอามาเผางี้หน้าตัวเมียว่ะ ไม่ชอบก็แยกกันไปที่ชอบๆ สิโว้ย!!”
กำมือลงแรงกับอีกคนไปอีก คงจะได้เลือดแล้ว . . เซฮุนย่นจมูกเมื่อกระสาถึงกลิ่นคาวแต่ในใจก็ยังคิดจะทำร้ายร่างกายคนที่เอาเรื่องเรือนร่างของพี่ที่เขาเคารพมากมาประจาน
นี่มันเรื่องส่วนตัวเถอะนะ โตๆ กันแล้ว ไอ้ที่ว่าจะไปเอากับใครที่ไหนก็เรื่องของอีกฝ่ายแท้ๆ
ไม่รู้ว่าเขาจะเก็บเอามาคิดแทนทำไม
และในวินาทีทีขาเก้าอี้หักออกจากกัน
เซฮุนกระโจนขึ้นไปเอาเข่าเสยคางอีกฝ่ายที่เขาตั้งใจจะจองเวรมันไปตลอดชีวิต มือหนากระชากผมอดีตเพื่อนในแก๊งขึ้นแล้วจับหัวกลมๆ
นั่นกระแทกกับหัวตัวเองแรงๆ นี่มันชักจะบ้าไปกันใหญ่
. . เขาอยากให้มันตายๆ ไปซะตอนนี้ เมื่อไหร่จะหยุดพูดอะไรมากระทบกระเทียบเขาสักที
เด็กขี้อิจฉา !
“เหี้ยจริง แล้ว’ ไมมึงต้องร้องไห้ไอ้สัส”
หยดน้ำสีที่กลิ้งอยู่ในดวงตาคู่เรียวทำให้ความคิดร้ายกาจทั้งมวลของเด็กหนุ่มพังทลาย
ไม่ว่าจะเคยเป็นอะไรต่อกัน ทั้งศัตรูหรือเพื่อนอะไรตอนนี้ก็ไม่ได้สนใจแล้ว
เขารู้สึกผิดเหลือเกินที่ไปล้อเล่นกับความรู้สึกจริงจังนั้น
มันคงรักของมันมากจริงๆ นั่นแหล่ะ . . .
คำพูดนั้นที่แม้แต่จะให้ปฏิเสธในใจก็คงจะทำไม่ได้อีก
เลยปัดประเด็นและออกแรงต่อยมุมปากช้ำๆ และโหนกแก้มที่บวมปูดไปให้เปลืองมืออีกทั้งอย่างนั้น
“ก็เจอแต่คนแม่งเหี้ยกันหมดนี่ไง ไอ้เหี้ย!!!!! ”
---
คิมจงฮยอนเดินเช็ดผมไปพลางกระดกเกลือแร่บรรจุขวดไปพลาง
หลังจากเสียเหงื่อไปมากที่เข้าไปออกกำลังฟิตหุ่นโรงยิมส์
ค่อนคืนรอยต่อของวันใหม่รุ่นพี่ตัวเล็กเดินตีคู่กันมากับอีแทมินผู้ดั้นด้นมาตามตัวคนเล่นเลยเวลากลับหอที่ถึงจะยกเลิกเคอฟิวส์สี่ทุ่มไปแล้วตอนเขาบรรลุนิติภาวะก็ตาม
แต่เพราะกลัวเหลือเกินว่าฮยองที่หน้าตาเหมือนไดโนเสาร์สักพันธุ์จะไปแฮ้งก์หลับคอพับอยู่ที่บาร์เหมือนคราวก่อน
แล้วไม่มีใครแบกกลับไปได้นอกจากมินโฮ ที่ตอนนี้คงจะเข้าเคสผ่าตัดอยู่ในสตูฯ
เดินเอื่อยๆ
ไปตามถนนสายเล็กที่แม้จะพ้นวันใหม่มาแล้วก็ยังดูคึกคักเหมือนช่วงสองทุ่ม อยู่ดีๆ
มักเน่ของวงที่สูงเลยพี่ชายบ้ากล้ามไปตามช่วงวัยที่โตขึ้นก็วิ่งมาดักหน้าแล้วยืนจังก้ากางแขนออกราวต้องการให้หยุดฟังแต่โดยดี
(นี่เป็นคำสั่ง!!!)
“อะไรล่ะอย่ามามุกลืมรูดซิป
วันนี้ใส่กางเกงวอร์ม”
“โน ไม่ได้มุก . . ฮยอง ! อยากกินเอ็มแอนด์เอ็มอ่ะ” แทมินครวญพร้อมกับมองคนเป็นพี่ตาปริบๆ
จงฮยอนส่ายหน้าแล้วบ่นว่าเมื่อกี๊ตอนแวะช็อปทำไมไม่ซื้อ
แต่เจ้าตัวป่วนกลับตอบตาใสว่าอยากจะกินแบบหมุนจากตู้
ซึ่งวิธีการยุ่งยากทำให้มันดูมีค่ากว่าซื้อชนิดซอง โหย . . น้องแทมอย่าเยอะดิพี่ขอ
แต่เพราะสปอยล์มาตั้งหลายปีอีกฝ่ายคงติดนิสัยเอาแต่ใจไปแล้ว ก็เลยได้แต่พึมพำ
“หลักการส้นตีนอะไรวะ น้องใครเนี่ย”
เมนโวคอลเสียงสูงหัวเราะเบาๆ ขณะเอ่ยแซวแล้วโน้มคอน้องชายที่พองแก้มขัดใจมาขยี้ผมก่อนจะพากันเดินไปยังเกมเซนเตอร์ข้างหน้า
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนสองแสบปีเก้าสี่อย่างจงอินและเซฮุนจะเป็นเจ้าประจำที่ร้านนี้เหมือนกัน
. . เด็กพวกนั้นสนิทกับน้องเล็กของเขา
ไม่รู้ว่าจะร้ายกาจอีกสักกี่ขนานนะ ??
“หวาว.. ฮยองดูๆ หวาววววววว!!!!”
“เร็วๆ ดิ แม่โทรมาจิกแล้วเนี่ย”
จงฮยอนเร่งเจ้าน้องเล็กหัวเห็ดเมื่อวันวานที่ยังนั่งยองๆ
จ้องอุปกรณ์หลอกเด็กทำจากแก้วซึ่งถ้าหยอดเหรียญ บิดๆ ก็จะมีลูกอมลูกกวาดออกมาตาเป็นประกายพร้อมกับปรบมือหัวเราะถูกใจทุกครั้งที่ได้ขนมมา
แบ่บ คือไม่เข้าใจ น้องตื่นเต้นอะไรวะ
ทำอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน ไหว้มันมั้ยแทมิน คำนับมันเลยลูก. . .
นี่แหน่ะ ไม่ใช่อารมณ์ตลก ! มือเล็กยื่นสมาร์ทโฟนที่หน้าจอขึ้นโชว์ว่า ‘
คิ บ อ ม มี่ is calling ’ ให้อีกคนดูอย่างตื่นตระหนก เออนี่แค่คอลนะเว่ย
ถ้ากลับช้ากว่านี้ ค ว า ม ซ ว ย is following you แน่นอน . . บรึ๋ยซ์!!!!
แทมินกระวีกระวาดโกยขนมใส่ถุงได้ห้าใบ ก่อนจะให้เหตุผลว่า
เพราะเรามีกันห้าคนนะ! ทำให้จงฮยอนเผยยิ้มเอ็นดูออกมาก่อนไล่ให้เจ้าน้องเล็กไปจ่ายเงินสักที
ระหว่างกระโดดเริงร่าไปที่เคาท์เตอร์ด้วยกัน พลันปลายตาก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคนขนาดใหญ่ที่ไปมุงอยู่ที่มุมเล่นเกมส์ออนไลน์
ในใจของชายหนุ่มนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จงฮยอนอาสาไปดูแต่กลับถูกตอกแสกหน้ามาว่า ฮยองตัวเท่านั้นอ่ะนะ
คนพี่ก็จนใจโบกมือให้รีบไปรีบมา
มักเน่แห่งแสงที่เปล่งประกายดึงหมวกแก๊ปลงมาบังหน้าตัวเองมากขึ้นขณะชะเง้อคอมองเข้าไปกลางวงที่พอปรับโฟกัสชัดๆ
ว่าใคร ทำอะไรแล้วก็ได้แต่เบิกตาโพลงอย่างไม่อยากเชื่อ . .
ไม่รอช้านิ้วเรียวยาวกดโทรออกไปยังเบอร์เพื่อนสนิททันทีที่พบเห็นเหตุการณ์ชุลมุนซึ่งถ้าทิ้งระยะกว่านี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
. . นานทีเดียวที่เขากระทืบเท้าไปมารอให้อีกฝั่งกดรับ ปลายสายดูง่วงงุน คิดว่าวันนี้คงจะซ้อมหนักไม่ก็ไม่ได้ออกมาเที่ยวกระมัง
แทมินเลยได้โอกาสแรพไปแบบไม่ทันให้ตั้งตัวที่ทำให้ฝั่งโน้นตื่นเต็มตา
“นีนี่ . . โอเซฮุนซัดคนอยู่เกมเซนเตอร์
มาด่วน!!! ”
---
จงอินวางสายแล้วผุดผัดลุกจากที่นอน เขาตื่นเต็มตาด้วยความตระหนกปนสยอง
หาเรื่องเข้าจนได้ไอ้บ้าเอ๊ย!
จริงอยู่ที่เขากับเพื่อนจะแอบหลบหลีกพี่ๆ
ในหอไปเที่ยวเล่นกันบ่อย แต่ครั้งนี้ . . จะว่าไปก่อนหน้านี้ก็มีหลายครั้งอยู่ที่เซฮุนออกไปคนเดียว
หมอนั่นมันไฮเปอร์ระดับทูด่าแมกซ์ ถ้าไม่ตามไปคุมแล้วดันเจออริเก่าเข้าล่ะก็ มันระงับอารมณ์รุนแรงที่ปกติไม่อาจแสดงต่อหน้าคนหมู่มากไม่ได้หรอก
ผับผ่าสิ!!
ด้านปาร์คชานยอลที่มาอาศัยห้องเล่นเกมจนหลับไป เมื่อได้ยินเสียงก็อกแก๊กก็งัวเงียลืมตาขึ้นมามอง
พบว่าคนเป็นน้องกำลังหันหลังสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเบาๆ
ว่า จะไปไหน
จงอินที่คิดว่าเร้นกายในความมืดได้อย่างแนบเนียนแล้วถึงกับชะงักการกระทำแล้วบอกให้พี่ชายตัวสูงนอนต่อไป
นั่นยิ่งทวีความสงสัยให้ชายหนุ่มมากขึ้นไปอีกชานยอลลุกขึ้นบิดตัวไปมาแล้วบอกว่าจะตามไปด้วย
แดนซ์ซิ่งแมชชีนประจำวงถึงกับเบะปากบอกว่าไม่ใช่จะไปเที่ยว
แต่เหมือนชานยอลรู้อยู่ก่อนว่าเป็นเรื่องของเซฮุน เพราะนอกจากพ่อคนลอยลมนั่นก็คงไม่มีใครออกไปนอกหอกลางดึก
อ้อ.. เว้นพี่ลู่หานอีกคนนะ
เมื่อคนที่ตั้งตัวเป็นแฟนบอยของตัวเองดึงดัน
จงอินก็เหนื่อยจะต่อกร . . ทั้งสองค่อยๆ แง้มบานประตูแล้วย่องออกไป
ไฟที่ปิดจนมืดสนิทมีเพียงโคมเล็กๆ ข้างโซฟา พวกเขาสองคนก็เหมือนเซฮุนนั่นล่ะ
คิดว่าหลับกันหมดแล้วเวลาขนาดนี้ แต่ที่ไหนได้ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะไปจ๊ะเอ๋เข้ากับพี่ระเบียบกับพี่วินัยที่ยังพูดคุยไปพลางแทะไก่อบไปพลางอย่างสบายอารมณ์
ไอ้ชิบหาย . .
เสียงในใจจากทั้งสองฝ่ายดังขึ้นมาพร้อมกันในคนละความหมาย
ฝ่ายที่หิวโซกลัวตัวช่างกินที่อยู่ๆ ก็แห่ออกมาเป็นแพคคู่(ดีไม่มีแบคฮยอนอีกคน)มาแย่งของรักเลยรีบซัดไก่อบเข้าปากอย่างไม่ยั้งมือแม้ว่ามันจะเข้าไปรวมอยู่ข้างแก้มที่พองออกจนเคี้ยวไม่สะดวก
ส่วนคนตัวสูงที่กำลังจะรีบออกไปกู้สถานการณ์วิกฤตกลับรู้สึกว่าน้องเล็กจะเจอมหันตภัยขนาดคูณสองเข้าให้ไม่รู้ตัว
ชานยอลกับจงอินมองหน้ากันอิหลักอิเหลื่อไม่รู้จะออกไปจากตรงนี้ได้อย่างไร
จนแทมินที่ยังส่งสติ๊กเกอร์ในโปรแกรมแชทมาจิกรัวๆ
อีกหน จงอินจึงกลั้นใจแล้วเดินเร็วๆ ชนิดหลับหูหลับตาผ่านรุ่นพี่ที่รักไปยังประตูทางออกโดยมีชานยอลวิ่งตามไปติดๆ
เรียกสายตางุนงงของจุนมยอนและคยองซูที่มองหน้ากันอึ้งๆ
ว่าไม่ได้จะโดนแย่งกิน แล้วพวกเขาควรจับประเด็นไหนก่อนกัน
“เราควรไปด้วยป่าวอ่ะ” คนตาโตกลืนคำสุดท้ายลงคอแล้วหันไปขอความเห็นจากพี่ชายตัวขาวที่ดื่มน้ำอย่างใจเย็นในขณะที่ขมวดคิ้วมุ่น
“คงต้องบอกว่าตามรถคันหน้าไปแล้วล่ะคยอง”
อีกฝ่ายลุกขึ้นจากเก้าอี้เป็นสัญญาณ แล้วชายหนุ่มร่างเล็กสองคนก็รีบล็อคกุญแจห้องชุดแล้วโบกแท็กซี่ตามเด็กแสบที่จะไปไหนไม่พูดไม่จาไป
มันดูจะฟอนเฟะกว่าที่คิดตอนที่ชานยอลกับจงอินมาถึงที่เกิดเหตุ
. . ข้าวของพังพินาศโดยที่สองหนุ่มยังตะลุมบอลอยู่ตรงกลาง
กวาดสายตามองแล้วยังดีที่ไม่มีใครอุตริถ่ายวิดีโอเก็บไว้
หรือถ้ามีก็คงต้องพึ่งพิงแบล็กการ์ดจ่ายค่าปิดปากเสียหน่อยกระมัง
คนเป็นพี่ให้เกียรติน้องชายในฐานะที่ฝ่ายกำลังซัดคนอย่างที่ได้รับแจ้งมาเป็นเพื่อนสนิท
จงอินเดินเข้าไปใกล้ท่ามกลางเสียงร้องห้ามของผู้คนโดยรอบ เมื่อเห็นหน้าคนในเงื้อมมือมารแล้วก็แค่นหัวเราะขึ้นจมูก
มันก็น่าโดนอยู่หรอก . . .
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาแบ่งพรรคแบ่งพวก
อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าพี่ชายตัวจ้อยอีกสองคนต้องตามมา
และเขาควรจะเคลียร์น้องเล็กออกจากอ้อมกอดแห่งคู่แค้นไปเปลาะหนึ่งก่อน
ไม่งั้นราตรีนี้ต้องโดนสวดอีกยาวไกลแน่
โอเซฮุนผู้โดนครอบงำด้วยเพลิงโทสะง้างมือจะลงทัณฑ์อีกหน
แต่ก็เหมือนถูกหยุดค้างเอาไว้กลางอากาศเสียเฉยๆ
ครั้นจะโวยวายประท้วงก็ถูกกระชากออกไปอย่างง่ายดาย
“ตั้งสติหน่อย”
เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังพร้อมกับอาการปวดหนึบที่ข้อแขนขวา
ทั้งหมดเกิดจากคิมจงอินที่พูดแค่นั้น ก่อนจะเหวี่ยงทั้งร่างของคนกำลังบ้าได้ที่ไปข้างหลัง
เซฮุนผงะถอยหลังก่อนที่ชานยอลจะวิ่งเข้ามาประคองเขาไว้
. . พอออกมายืนไกลจากจุดเดิม ภาพตรงหน้าเขาที่เพิ่งมองเห็น
คือเศษซากอารยะธรรมของสถานที่ ที่เขารักมาก แต่ตอนนี้สภาพมันดูไม่จืดเลยสักนิด
นี่เขาคงไม่ได้ใช้พลังวิเศษของตัวเองพังร้านใช่ไหม...
มันอย่างกับเฮอริเคนถล่มจริงๆนะ
“เฮ้ย ! อะไรวะแม่ง”
เพี้ยะ !
ใบหน้าสมบูรณ์แบบที่เจ้าตัวภูมิใจสะบัดไปด้านข้างจากแรงปะทะของฝ่ามือขาว
ร่างสูงหันไปมองอีกฝ่ายช้าๆ
แม้จะมืดมากแต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ทั้งโอ๋ทั้งสปอยล์เขามากที่สุดเป็นคนลงมือกระทำ
“พี่ . . พี่ตบผม เป็นบ้าอะไรกันไปหมดวะเนี่ย ”
“หุบปากซะ . . อย่าทำตัวกร่าง
นี่ไม่ใช่ที่หอ”
คิมจุนมยอนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วยืดตัวตรง . .
. เขาคิดว่าเขาสอนน้องทุกคนมาอย่างมีเหตุผล โดยเฉพาะกับเด็กไม่ยอมโตคนนี้ ที่เขาถนอมน้ำใจมากที่สุดเพราะน้องยังเล็ก
จิตใจของเซฮุนบริสุทธิ์เกินไป กลัวว่าหากใส่อะไรแรงๆ ลงไปแล้วมันจะพังทลายกันหมด
และเพราะเอาแต่ประคบประหงมแบบนั้น
มันเลยทำให้เขาต้องทำอะไรสักอย่างบ้างในวันนี้แม้จะเห็นน้องชายกำมือแน่นจนตัวสั่น
และท่าทางแบบนั้นเองที่จุนมยอนรู้ดีว่าคือเซฮุนกำลังสะกัดกั้นน้ำตาของตัวเอง
“อย่าครวญครางเป็นหมาขี้แพ้ให้พี่เห็นนะโอเซฮุน”
“ . . .
”
“ปั้นหน้าให้ดี
พี่จะหาคำแก้ตัวกับเมเนเจอร์ฮยองเอง” จุนมยอนปรายตามอง สิ่งนั้น
อย่างเดียดฉันท์ แล้วกระชากแขนคยองซูที่ยังเลิกลั่กหาทิชชู่ชนิดเปียกในกระเป๋าให้เดินตามออกไปนอกร้าน
“กลับบ้านกันมึง”
จงอินที่ไปเคลียร์ค่าเสียหายด้วยบัตรเครดิตของพี่ชายตัวเล็กที่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินเข้ามาโอบบ่ากว้างเบาๆ
ก่อนจะพยุงตัวคนที่ยังกำมือซ้ายไว้แน่น..
เลือดจากแผลลึกหยดเป็นทางแต่เจ้าตัวก็คร้านจะใส่ใจ
เซฮุนรู้สึกชาไปทั้งตัว... เจ็บถ่วงๆ เข้าไปถึงหัวใจ
ไม่ว่าจะเกมออนไลน์หรือเกมชีวิต
เขาแพ้แล้ว..
+++
TBC
29/10/2015
Talk!
: สวัสดีค่า ฮุนฮานเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือย้อนไทม์ไลน์กันนิดนึงนะคะ
นี่เป็นช่วงโปรโมตโอเวอร์โดสที่น้องใส่เฝือกดามนิ้วค่า เห็นแล้วมันอินๆ
เลยลุกขึ้นมาเขียน จริงๆ ลงไว้นานแล้วแต่จุกๆ ก็ลบไปลบมา5555555 วันนี้แข็งแกร่งแล้ว เราฮึกเหิม! หลังจากดูพี่เกด
สตรอง! สตรอง!! อยู่หลายรอบ (ฮา) ยังไม่มีแท็กเยย
เชิญเมนชั่นมาสกรีมค่ะ แฮ่ -w-