2558-12-30

[Special Fic] One Day Miracle of William Chan



[Special Fic] One Day Miracle of William Chan EP.03



#หนึ่งวันมหัศจรรย์ของเฉินเหว่ยถิง




Warning!!  ฟิคเรื่องนี้คือวิ่งเปี้ยวโปรเจคต์นะคะ เป็นการแต่งฟิคคนละสามหน้าถ้วนต่อกันของสามคนแบบไม่บอกพล็อตล่วงหน้า แต่งต่อกันแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้55555



ความเดิมตอนที่แล้ว >> Part 2 by ต้าซือซง ConiCat



PART 3





กึก.. กึก


เสียงสะเดาะกลอนประตูเป็นของคนอายุน้อยที่รีบใส่เสื้อเกินเบอร์กว่าฟรีไซส์ที่ตนยกให้เจ้าของเดิม... หลังจากได้รับการทักทายจากน้องชายไม่รักดีของเฉินเหว่ยถิง เชียนซีก็เตะผ่าหมากเข้าให้หนึ่งทีแล้วรีบวิ่งตึกตักผลักประตูห้องน้ำออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ร่างสูงที่ถูกประทุษร้ายเข้าเต็มรักหน้าแดงหน้าเขียวเปลี่ยนไปมาเหมือนไฟจราจร และแม้เรี่ยวแรงจะไม่มีเหลือแต่เขาก็ไม่อาจทนฟังเสียงกระเส่าจากห้องข้างๆ ที่ยังมีมาไม่ยอมหยุดได้อีกต่อไป เหว่ยถิงรีบสวมเสื้อที่เปื้อนคราบน้ำหวานที่เมื่อมีเสียงประกอบเช่นนั้นก็ยิ่งมองเป็นอะไรสักอย่างพาลให้คิดเตลิดไปถึงไหนต่อไหน ว่าแต่.. ผิวเด็กๆ นี่มันดีจริงๆ นะ


ร่างสูงสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ค่อยๆ หายใจเข้าอย่างต้องการกำหนดสติแล้วกวาดตามองหากระเป๋าสตางค์เจ้ากรรมอย่างร้อนรนกว่าเดิม เพราะบางทีแล้วหนังอาจจะฉายไปเกินครึ่งเรื่องก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปให้เจ้าตัวแสบทั้งสองบ่นจนหูชา

และไม่รู้เวรกรรมแต่ปางใดทำให้พิกัดมันช่างดีกับใจเหลือเกิน เพราะมันตกอยู่กับพื้นริมโถสุขภัณฑ์ที่ติดกับประตูห้องที่เกิดเสียงอื้ออึงจากกิจกรรมเข้าจังหวะ ที่เมื่อเขาเอื้อมมือไปเฉียดบานประตูเส็งเคร็งที่มีช่องว่างด้านล่างนั่นเข้าก็เกิดเสียงร้องกรีดร้องโวยวายว่า ผีๆๆๆ ไม่หยุดจนประตูห้องน้ำบานนั้นเปิดออกแล้วร่างสูงสง่าชะโงกตัวออกมาดูลาดเลาด้วยสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย


คริส..?

เหว่ยถิงพินิจมองใบหน้าที่ไม่ต่างไปจากเดิมนักของ อู๋อี้ฝาน น้องรหัสของเขาสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็นิ่งไป ดวงตาสองคู่สบกันพอดีด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ด้านคนที่จ้องเขม็งสิ่งมารบกวนความสุขของเขาก็ได้แต่เผยอริมฝีปากขึ้นราวกับต้องการที่จะพูดอะไรแต่ก็ไม่ทันได้คิด คนที่ถูกโทรจิกก็ผุดผลัดลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปก่อน



---



มัวทำอะไรอยู่!!”

อี้เฟิงเอ็ดเสียงเบาขณะถลึงตาใส่คนที่เดินค้อมศีรษะต่ำๆ เพื่อไม่ให้ไปบังทัศนะวิสัยชาวบ้านเข้ามานั่งตรงกลางระหว่างสองหนุ่มที่เข้ามานั่งไขว่ห้างกินป็อบคอร์นกันล่วงหน้า

โทษทีๆ แต่เมื่อกี๊มันโคตรจะบ้าขอขมาไปแล้วก็เล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ว่าที่เสียเวลาไปโขเพราะระหว่างทางไปชนเข้ากับคุณซานต้าที่รับจ้อบแจกน้ำผลไม้แล้วทะเลาะกันนิดหน่อย ต่อมาเมื่อไปถึงห้องน้ำดันมีคนกำลังเมคเลิฟกันอยู่

พ่อพระเอกคนดังได้ฟังก็ทำสีหน้าปั้นยากผ่านแว่นตาดำทรงทันสมัย ที่ไม่เข้าใจว่าอยู่ในที่มืดขนาดนี้ยังจะใส่ปกปิดสถานะตัวเองอีกทำไม ในขณะที่หยางหยางที่ฟังทันเฉพาะช่วงแรก ตบไหล่เขาแล้วหัวเราะน้อยๆ พูดว่าปีนี้เหว่ยถิงจะต้องอดของขวัญคริสต์มาสเป็นแน่เพราะไปยั่วโมโหซานต้าเข้า



ทั้งสามเลิกสุมหัวคุยกันแต่หันไปสนใจจอภาพตรงหน้าเมื่อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เริ่มดำเนินเรื่อง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ตามลำดับจนเนื้อเรื่องเข้าสู่ช่วงการคลายปมหลัก บรรยากาศส่วนใหญ่จึงเริ่มอึมครึมและมีเสียงจอแจวิจารณ์บ้างประปราย

อาจเป็นความเคยชินของเพื่อนสนิทที่นั่งดูหนังด้วยกันเช่นนี้เวลาตื่นเต้นอี้เฟิงมักจะควบคุมตัวเองไม่ให้เผลอจิกเล็บเข้ากับอะไรสักอย่างเพื่อระบายความกดดัน.. และท่าทางละครเรื่องก่อนคงเป็นแนวพีเรียดย้อนยุคล่ะมั้ง เหว่ยถิงที่ยุ่งเสียจนไม่ได้ติดตามผลงานเพื่อนเก่านักที่ร้องโอ๊ยขึ้นมาเบาๆ เพราะรู้สึกว่าอี้เฟิงจะไว้เล็บยาวไปหน่อย จนการจิกๆ บิดๆ แขนเขาเหมือนที่เคยๆ ทำ คราวนี้คล้ายกับการโดนข่วนเอาเสียมากกว่า



เฟิงเฟิง.. ใจเย็นๆ ไม่ต้องเกร็ง

กระซิบปลอบคนข้างๆ ที่ผวามาเกาะแขนเขาไว้แล้วฝังเล็บลงแน่นในผิวเนื้อประหนึ่งหวาดกลัวเรื่องราวตรงหน้า แต่ความรู้สึกประหลาดบางอย่างกลับก่อตัวขึ้นในมโนจิตเฉินเหว่ยถิงอีกครั้ง หลังจากที่เกิดขึ้นยามที่เขามองคราบเปื้อนเหล่านั้น เพราะเขาเริ่มไม่ได้รับรู้ถึงความน่ารักหรือจั๊กจี้ของท่าทีนั้น แต่เป็นความรู้สึกอีกแบบ... ที่เหมือนเกิดขึ้นด้วยแรงอารมณ์



โธ่เว้ย! ไอ้เสียงครางเวรนั่นกำลังจะทำให้เขาเป็นบ้า!

เหว่ยถิงสะบัดหัวตัวเองไปมาไล่ความคิดเตลิดเปิดเปิงของตน โชคร้ายที่มันเกิดขึ้นจังหวะเดียวกับที่หยางหยางผู้ใจดีกำลังจะส่งป็อบคอร์นรสใหม่มาให้ลองชิม เรื่องเศร้าก็เลยบังเกิด...



เว้ยยยยย แม่หก!”

ซุ่มซ่ามจริงๆ เจ้าเด็กคนนี้ มันเสียของรู้ไหม? เก็บให้หมดเลยนะไอ้หมา!”

ยังคงเป็นอี้เฟิงซึ่งได้ฉายาช่างจ้อมาจากกองถ่ายที่เห็นของกินสำคัญยิ่งชีพจึงเริ่มบ่นคนน้องที่ไม่ได้ตอบโต้อะไรขณะย่อตัวลงกับพื้นมืดๆ แล้วเก็บขนมที่คงกินไม่ได้แล้วนั้นแต่โดยดี เหว่ยถิงที่เป็นต้นเหตุยิ้มเจื่อนๆ ให้กับสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเขาเองก่อนจะก้มลงไปช่วยเก็บอย่างมีน้ำใจ


พวงแก้มใสของรุ่นน้องจอมวางแผนดูมีสีระเรื่ออย่างน่าประหลาดในความมืดสลัวๆ นี้จนสายตาเหว่ยถิงพร่าเบลอ และวินาทีที่ชายหนุ่มร่างบางหันไปคว้ากระป๋องบรรจุข้าวโพดคั่วนั่นเองที่ฝ่ายแพ้พนันแล้วต้องมาเลี้ยงหนังเช่นนี้แอบกดจมูกลงข้างแก้มเป็นการหอมเข้าฟอดหนึ่ง

หยางหยางหันขวับกลับมาถลึงตามองคนฉวยโอกาสแล้วทุบตีพี่ชายด้วยอาวุธในมือ.. ลงท้าย ป็อบคอร์นถังนั้นก็เหมือนซื้อมาทิ้งเปล่าในโรงหนังนี่เอง



---



ภาพยนตร์จบแบบไหน เหว่ยถิงก็คร้านจะใส่ใจ เขาคิดว่าอีกหน่อยอี้เฟิงก็จะเที่ยวสปอยล์ไปทั่วจนเขาเข้าใจได้เอง.. ตอนนี้เป็นเวลาประมาณหกโมงกว่า หากรวมเวลาเดินทางไปส่งเจ้าสองแสบแล้วแวะไปดริ๊งต่อเขาก็มีเวลาเหลือเฟือ... สามหนุ่มสามมุมแยกกันที่ลานจอดรถบริษัทต้นสังกัดของอี้เฟิงที่ดูจะมีความสุขมากที่สุดซึ่งสังเกตว่าเสื้อของเพื่อนต่างออกไปจากเมื่อช่วงสายแต่กลับไม่ได้มองว่าน้องชายที่ยืนข้างๆ ทำหน้าตาจะกินเลือดกินเนื้อคนในรถมากแค่ไหน

รถยนต์คันหรูจากบริษัทฝั่งยุโรปแล่นฉิวไปตามถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังบาร์เครื่องดื่มชื่อดังที่คุ้นเคยอย่างไม่เร่งรีบ ขณะติดไฟแดงเหว่ยถิงที่เคาะนิ้วไปตามจังหวะเพลงก็เหลือบไปเห็นร้านอาหารเจ้าประจำ เขายกยิ้มอารมณ์ดีแล้วเลี้ยวรถเข้าไปเทียบท่าเพื่อซื้ออาหารจุบจิบไปเป็นกับแกล้มที่ดูๆ ไปแล้วน่าจะเป็นมื้อใหญ่กว่าที่คิด


ช่วงเทศกาลนี่ทำกำไรได้เยอะเลยนะว่าไหม? ข้างหน้าร้านลูกค้าแน่นเชียว

ลูกค้าเจ้าประจำเดินผ่านประตูที่เชื่อมไปยังส่วนจัดเตรียมอาหารด้วยท่าทางสบายๆ ร่างสูงเข้ามาหยุดยืน มองไปรอบๆ เมื่อเจอคนที่อยากพบก็เดินเข้าไปกอดคอพลางเอ่ยถามเจ้าของร้านที่มักจะลงครัวเองอย่าง ฮ่าวหมิง อย่างคุ้นเคย


เฮียถิง! มาได้จังหวะพอดี วันก่อนผมได้ใบชาชนิดใหม่ นั่งก่อนสิครับ.. เชิญๆ

คนที่กำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหารเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ทิ้งการทิ้งงานให้ลูกมือรับผิดชอบต่อแล้วรีบจัดแจงปัดฝุ่นเก้าอี้ที่ยังดูใหม่เอี่ยมให้คนเป็นพี่นั่ง เพราะแขกเหรื่อคนนี้สำคัญเขาก็เลยทำไปโดยไม่ได้ทันคิด คนที่ถูกกดไหล่ให้นั่งลงก็จนใจแล้วได้แต่หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู


ยุ่งขนาดนี้ยังจะใจเย็นชวนดื่มชาอีก.. วันนี้แค่จะแวะมาสั่งข้าวกล่องไปเป็นมื้อเย็นเหงาๆ น่ะ

ได้ฟังผู้พี่เอ่ยอย่างน่าเห็นใจเช่นนั้น ฮ่าวหมิงก็ทิ้งออร์เดอร์สินค้าอื่นแล้วรีบจัดแจงเมนูโปรดที่สั่งประจำให้เหว่ยถิงอย่างรู้ใจจนเจ้าตัวยิ้มร่าแล้วขยี้หัวพ่อครัวมาดนิ่งพร้อมกล่าวชมว่าเด็กดี..เด็กดี


ระหว่างเดินทอดน่องเอื่อยๆ พร้อมถุงพะรุงพะรังที่บรรจุทั้งอาหารและของว่างมากมายไปขึ้นรถแล้วคิดกับตัวเองว่าชีวิตวันนี้ของเฉินเหว่ยถิงช่างสงบสุขเสียเหลือเกิน แต่แล้วเด็กคุมลานก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา บอกเสียงลนลานกับเขาว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว...



 +++

น้องเล็กขอฝากตัวค่ะ . ____ .

โยนกลับไปหา PART 4 ที่พี่รอง Essorhino นาจา <3


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น